Redis เป็นฐานข้อมูล In-Memory ที่ใช้หน่วยความจำ จุดเด่นคือความเร็วที่เร็วกว่าฐานข้อมูลแบบดิสก์ การประมวลผลข้อมูลทำได้ง่ายด้วยโครงสร้างแบบคีย์-ค่า

ในตอนแรกส่วนใหญ่จะใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลเซสชัน ต่อมาก็เริ่มนำมาใช้เพื่อการแคช เนื่องจากค่าที่ใช้ซ้ำๆ กันสามารถจัดเก็บไว้ใน Redis ได้ จึงสามารถดึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องค้นหาฐานข้อมูลทุกครั้ง

ข้อดีที่สุดของ Redis คือประสิทธิภาพที่เหนือชั้น เนื่องจากใช้หน่วยความจำจึงอาจมีค่าใช้จ่ายของเซิร์ฟเวอร์สูงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็คุ้มค่ากับประสิทธิภาพที่เหนือชั้น

มีข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบาย Redis ล่าสุด แม้ว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ปลายทาง แต่ผู้ให้บริการคลาวด์อาจได้รับผลกระทบ แม้ว่าจะกังวลเล็กน้อยว่าอาจจะมีการปรับราคาขึ้น แต่ Redis ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

ช่วงนี้ไม่ได้เจาะลึก Redis มาสักพักแล้ว แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้ยินข่าวว่ามีการเพิ่มฟังก์ชันการค้นหาเวกเตอร์ รู้สึกประหลาดใจ ดูเหมือนการค้นหาเวกเตอร์กำลังเป็นที่นิยม

มาพูดคุยกันเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ของ Redis กัน

ในเดือนสิงหาคม 2023 Redis ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการอนุญาต จาก BSD ไลเซนส์เดิม เปลี่ยนมาใช้ RSALv2 (Redis Source Available License) และ SSPLv1 (Server Side Public License) อนุญาตแบบคู่

การเปลี่ยนแปลงการอนุญาตในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจเพื่อความยั่งยืนของ Redis Redis เติบโตขึ้นจากการมีส่วนร่วมของชุมชนโอเพนซอร์ส แต่การขายเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ โดยใช้ Redis เป็นสินค้าโดยไม่ลงทุนใน Redis

ภายใต้แนวทางนโยบายการอนุญาตใหม่ ผู้ให้บริการคลาวด์ที่โฮสต์ผลิตภัณฑ์ Redis จะไม่สามารถใช้ซอร์สโค้ด Redis ฟรีได้อีกต่อไป จำเป็นต้องทำข้อตกลงด้านการอนุญาตกับ Redis จึงจะสามารถให้บริการ Redis เวอร์ชัน 7.4 ขึ้นไปได้

แต่สำหรับนักพัฒนาทั่วไปไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เนื่องจากสามารถใช้ซอร์สโค้ด Redis ฟรีผ่าน Redis Community Edition ได้ และไลบรารีไคลเอ็นต์ Redis ทั้งหมดก็ยังคงใช้ใบอนุญาตโอเพนซอร์สอยู่

ยังไม่แน่ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงการอนุญาตของ Redis ในครั้งนี้ จะนำไปสู่ผลลัพธ์อย่างไร แต่ก็หวังว่า Redis จะยังคงเป็นฐานข้อมูลที่นักพัฒนานิยมใช้ต่อไป